การพัฒนารถบรรทุกโครเนอร์ สร้างโดยคำนึงถึงคุณภาพและความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรกตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ โดยผ่านการออกแบบวิศวกรรมการทดสอบและการผลิต ใช้เวลาตลอด  3 ปีของการพัฒนาและทดสอบโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของเรา ตั้งแต่แนวคิดแรกเริ่มไปจนถึงสายการผลิต เราได้ใช้เวลาร่วมกว่า 1,700,000 ชั่วโมงวิศวกร และใช้เวลาในการทดสอบร่วม 30,000 ชั่วโมง ทำการทดสอบกว่า 90 ครั้ง โดยรถบรรทุกกว่า 100 คัน ผลลัพธ์ที่ได้คือรถบรรทุกที่ล้ำหน้าในเรื่องความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และความคงทน

การทดสอบความคงทนนั้น ถูกทำการทดสอบเทียบเท่ากับระยะทาง 3 ล้านกิโลเมตร โดยมีการทดสอบในสภาพอากาศ และสภาพพื้นผิวถนนที่ยากลำบากที่สุดรอบโลก นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบภาคสนามกว่า 1.4 ล้านกิโลเมตรในการใช้งานจริงของลูกค้าใน 6 ประเทศและ 3  ทวีปตลอดระยะเวลากว่า 18 เดือน

"รถบรรทุกคันนี้ และ รถบรรทุกทุกรุ่นของยูดี ทรัคส์ สามารถจัดการกับปัญหาสุดหินได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนมาก เราก็ไม่เคยเจอปัญหาเครื่องยนต์โอเวอร์ฮีท ระหว่างการทดสอบรถบรรทุกคันนี้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจเราจริงๆ โครเนอร์กินน้ำมันน้อยกว่าและไม่ปล่อยควันพิษทำลายอากาศ โครเนอร์ให้ความปลอดภัย วางใจได้ และยังขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล เรามีแผนจะซื้อโครเนอร์หรือรุ่นอื่นๆจากยูดี ทรัคส์เพิ่ม ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน" เอซิฟ มาฮะมูด รานจา ผู้จัดการฟลีท กลุ่มบริษัท  Agthia

โครเนอร์ มีกำลังรับน้ำหนักที่เพลาสูงมากที่สุดในรถบรรทุกรุ่นเดียวกัน  มันสามารถแบกรับน้ำหนักได้มากกว่ารถบรรทุกขนาดกลางทั่วไป คุณจะได้รับความน่าเชื่อถือและความคงทนสูงสุดตามมาตรฐาน ยูดี ทรัคส์

• ไปฟังเสียงจากลูกค้า

"โครเนอร์ มีอุปกรณ์เสริมที่ไว้วางใจได้และคงทนมากมาย ตั้งแต่แหนบตับเพลาไปจนถึงระบบกันสะเทือนแบบถุงลม
ซึ่งช่วงล่างแบบแหนบตับเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งจากโรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในงานขนส่งสินค้าที่เสียหายง่าย"

โครเนอร์ ได้รับการออกแบบโดยเน้นที่ประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความไว้วางใจได้ อีกทั้งการเข้าถึงส่วนประกอบต่างๆยังทำได้ง่าย จึงช่วยลดระยะเวลาในการบำรุงรักษาได้มาก

• หัวเก๋งสามารถยกเอียงได้มากสูงสุดถึง 48 องศา เพื่อให้เข้าถึงเครื่องยนต์ได้ง่าย


• การตรวจเช็คประจำวันและการบำรุงรักษาสามารถทำได้ง่ายแค่เปิดฝาด้านหน้า


• ระบบเบรกล้มล้วน โดยไม่มีไฮโดรลิค จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันไฮโดรลิค และไม่ต้องบำรุงรักษาชุดกระบอกเบรก