หญิงเหล็กในวงการขนส่ง

คุณออโรร่า ลาร่าคือผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท ในวัย 83 เธอยังสามารถดูแลงานประจำวันของบริษัท Economi Hauling ได้ ฉันตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ราวๆ ตีสี่ และเริ่มวางแผนสำหรับวันนั้น คิดถึงรถบรรทุกและจะจัดการยังไง จากนั้นก็อยู่ในสำนักงานทั้งวัน" คุณลาร่ายิ้มกว้าง
 
“ฉันอยู่ในวงการขนส่งมาตลอด” เธอเล่า “ตอนอายุราว 30 จำได้ว่าคุณพ่อมีม้าหลายตัวที่เราขายออกไปเพื่อใช้ลากรถ ต่อมาฉันทำบริษัทแท๊กซี่กับสามี ตอนนี้ก็เป็นรถบรรทุก”

สามีของเธอเสียชีวิตไปช่วงปี 1980 เธอเป็นหม้ายที่ต้องดูแลลูกสาววัยรุ่นกับธุรกิจเพียงลำพัง ตอนนั้นเองที่เธอตัดสินใจเปลี่ยนมาทำธุรกิจขนส่ง “แท็กซี่มันดูแลยากเกินไป อันตรายเกินไป ถูกจี้ปล้นทุกคืนในมะนิลา” เธอพูด
        
     เธอเริ่มธุรกิจรถบรรทุกในปี 1986 โดยมีรถบรรทุกเล็กสามคันซึ่งเพิ่มเป็น 20 คันในอีกไม่นานนัก ทั้งหมดวิ่งขนส่งเอทานอล ปัจจุบัน Economi Hauling มีรถบรรทุก 50 คัน และเป็นคู่สัญญาผูกขาดกับ Petron ที่เป็นบริษัทน้ำมันเชื้อเพลิงใหญ่ติดหนึ่งในสามของฟิลิปปินส์
        
    การเป็นเจ้านายผู้หญิงในวงการที่มีแต่ผู้ชายเป็นอย่างไรบ้าง? ฉันคุ้นเคยมานานแล้วละ ฉันเป็นพี่สาวคนโตจากพี่น้องผู้หญิงทั้งหมดสามคน ไม่มีพี่ชาย ดังนั้นฉันก็ต้องเป็นผู้นำตลอด "แม้ว่าสมัยก่อนผู้หญิงที่เรียนสูงๆ จะมีน้อยแต่ฉันก็จบมหาวิทยาลัยนะ ตอนแรกจบครูแล้วก็จบด้านธุรกิจ"

ปรับปรุงฟลีทด้วยรถบรรทุกยูดี

ช่วงปี 2014 – 2015 บริษัทซื้อเควสเตอร์เข้ามา 16 คัน “ตอนนี้เราพอใจมาก เราหวังว่ามันจะใช้งานได้สัก 15 ปี...ก็มาคอยดูกันครับ” คุณพอล ชอร์ทเวล รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการกล่าว เขากำลังคิดว่าจะซื้อเควสเตอร์เพิ่มอีกสัก 10-15 คันในอีกสองปีข้างหน้า มันทำให้คุณลาร่ายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก “รู้ไหมฉันชอบตอนไหนที่สุด? ก็ทุกครั้งที่เราซื้อรถบรรทุกใหม่เข้ามาไง!” เธอพูด

“เราไม่เชิงขยายฟลีทหรอกครับ เป็นการปรับปรุงเสียมากกว่า ผมอยากจะโละรถบรรทุกเก่าๆ ออกไปแล้วใช้ยูดีแทน” คุณชอร์ทเวลกล่าว ตอนนี้รถยูดีคิดเป็นเกือบ 30% และอาจจะมากขึ้นอีกไม่นานนี้ครับ”

อีกเหตุผลหนึ่งที่บริษัทชอบมากก็คือการขายและการบริการของยูดีที่กรุงมะนิลายอดเยี่ยมมากและดูแลลูกค้าดีมากครับ” คุณชอร์ทเวลพูด บริษัทพอใจมากกับความรวดเร็วและคุณภาพของการให้บริการ และนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่เราพิจารณาในการหาซื้อรถบรรทุกเพิ่มเติม

แต่ละวันในครอบครัว Economi

พนักงานย่อมเป็นแกนหลักที่ทำให้บริษํทเติบโตได้ คุณลาร่าจึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ความเคารพและเอาใจใส่ซึ่งกันและกันจนทำให้บริษัทเป็นเหมือนครอบครัวของทุกคนไปแล้ว

คุณลาร่าและพนักงานในออฟฟิสทำงานอยู่ในบ้านเก่าที่เธอเคยอยู่กับสามีเมื่อ 30 ปีก่อน ลูกสาวและหลานๆ ก็เข้ามาช่วยงานในบริษัทด้วย

เช่นเดียวกับคนขับอย่างมาริโอ้ ปาเกียวที่ทำงานกับครอบครัวนี้มา 30 ปีแล้ว “ตอนที่ผมแต่งงานผมก็อยากได้งานที่มั่นคงหน่อย ผมเลยมาเป็นคนขับรถ ผมไม่เคยไปฝึกอบรมที่ไหนหรอก ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ทั้งนั้น" คุณปาเกียวพูด

ลูกสองคนของคุณปาเกียวจากทั้งหมดหกคน คือลูกคนโตและคนรองก็ขับรถบรรทุกอยู่ที่ Economi Hauling เหมือนกัน “มีคนในครอบครัวทำงานที่บริษัทเดียวกันมันก็ดีครับ” คุณชอร์ทเวลพูด ผมคิดว่าคนที่อาวุโสกว่าสามารถสั่งสอนพวกที่เด็กกว่าได้โดยเฉพาะคนดีๆ อย่างมาริโอ้" คุณชอร์ทเวลยิ้ม

คุณปาเกียวขับเควสเตอร์ทั้งวัน “ผมตื่นตีหนึ่ง ใส่ชุดทำงานแล้วก็ออกไปตรวจรถบรรทุก – น้ำมันเครื่อง น้ำ และแบตเตอรี่ ผมออกไปวิ่งเที่ยวแรกตอนตีสาม หลังจากนั้น ผมก็นอนพักในรถ” เขาพูด “จากนั้นผมก็ขับกลับไปที่ Petron เพื่อบรรทุกน้ำมันรอบใหม่”

การเริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงกลางคืนเป็นความจำเป็นเพราะการจราจรที่มะนิลาติดขัดมาก รัฐบาลจึงห้ามรถบรรทุกวิ่งในเมืองตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ช่วงหกโมงเช้าถึงสิบโมง และช่วงห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม

คุณปาเกียวชอบเควสเตอร์ที่ขับอยู่ทั้งวัน ความสะดวกสบายของเควสเตอร์ทำให้คุณชอร์ทเวลสบายใจว่าคนขับจะได้พักผ่อนและฟื้นฟูกำลังระหว่างการขนส่งแต่ละเที่ยว จะได้ทำหน้าที่ได้เต็มที่เพราะว่าพวกเขาเป็นเหมือนตัวแทนของลูกค้านั่นเอง