ถนนในเมืองไทยมีปัญหาเกี่ยวกับการจราจรจนทำให้มีอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
แต่คุณจริยา คำภักดีดูไม่กังวลมากนัก โดยเฉพาะตอนที่เธอนั่งอยู่ในห้องในห้องโดยสารที่สูงและปลอดภัยของยูดี เควสเตอร์ ที่ทำให้เธอมองเห็นเส้นทางได้ไกลรอบด้าน รวมถึงวิวสองข้างทางที่สวยงามด้วย
คุณจริยาเป็นนักขับรถบรรทุกหญิงเพียงไม่กี่คนในประเทศไทย ก่อนนั้นเธอขับรถตู้เก่าๆ รับส่งผู้โดยสารมาหลายปีไปบนท้องถนนที่อันตรายทั่วประเทศไทย เธอเล่าให้ฟังขณะควบคุมพวงมาลัยเควสเตอร์เครื่องยนต์ 11 ลิตรว่าเธอมาจากร้อยเอ็ดและเริ่มทำงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุกที่พันธ์ทิพย์ ทรานสปอร์ตเทชั่น เซอร์วิส
เธอก็ได้รับความเคารพนับถือเป็นอย่างดี “คนส่วนมากพอรู้ว่าฉันขับรถบรรทุกเขาก็ให้การสนับสนุนดีค่ะ พวกเขายกนิ้วโป้งให้ หรือไม่ก็ส่งยิ้มให้ ตอนแรกพวกเขาก็แปลกใจ แต่ก็ยอมรับดิฉันค่ะ” เธอเล่า
ความภูมิใจในหมู่นักขับ
เธอทำงานสัปดาห์ละ 60 ชั่วโมง และขับไกลเฉลี่ยเกินวันละ 500 กิโลเมตร ชั่วโมงทำงานที่ยาวนานและความเหงาไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เธอกังวล "ทุกครั้งที่เข้าไปในรถบรรทุก ฉันก็ลืมความเครียด ปัญหา ความกังวลทั้งหลายไปหมด ฉันรักงานนี้ค่ะ" เธอรักยูดี เควสเตอร์คันนี้มากและชื่นชมสิ่งอำนวยความสะดวกและการออกแบบที่ยอดเยี่ยมของมัน
"ด้วยชั่วโมงทำงานที่นานและระยะทางที่ไกลจากบ้าน เธอยอมรับว่าเธอไม่ค่อยได้เจอหน้าครอบครัวบ่อยนัก
แม้ผ่านไปแล้วห้าปี ครอบครัวของเธอก็ยังไม่ค่อยสนับสนุนงานที่เธอทำอยู่มากนัก
รถบรรทุกคือชีวิตของฉัน ถ้ามันปลอดภัย...ชีวิตฉันก็ปลอดภัยด้วย ทุกครั้งที่เข้าไปในรถฉันรู้สึกปลอดภัยมาก มั่นใจในความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของมันค่ะ"
นี่มันงานของผู้ชาย - แต่อีกนานไหมล่ะ?
"แม้จะไม่มีข้อมูลที่แน่นอนว่ามีคนขับรถบรรทุกหญิงกี่คนในประเทศไทยก็ตามความเห็นส่วนมากเชื่อว่าน่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ การมี พขร. ผู้หญิงมาร่วมงานกับบริษัท ช่วยทำให้ทีมงานมีขวัญกำลังใจดีขึ้นมาก ทำให้พวกผู้ชายมีวินัยมากขึ้น ทำให้พวกเขารู้สึกต้องปรับปรุงตัวเองด้วย"
คุณจริยาบอกว่าตั้งแต่ที่เธอเริ่มขับเมื่อปี 2010 ผู้หญิงเริ่มทำงานนี้มากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีรถบรรทุกรุ่นใหม่ๆ อย่างเควสเตอร์ที่ไม่ต้องใช้แรงมากในการขับขี่ด้วยแล้ว วงการขนส่งน่าจะยิ่งเปิดกว้างสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ ค่ะ
Great to drive and cheap to run, UD Questers strengthen the Panthip’s competitiveness
Great on the road, the latest addition to Panthip’s 10-strong fleet, which chalks up an average 100,000 kilometers every month, have also proven to be a great investment business-wise.
Always been fond of Japanese vehicles, Sitthikorn Sornsuchittra, the company’s founder and owner, didn’t need much convincing to switch to UD trucks in early 2014. “They are a mix between European and Japanese technology – it’s the best of both worlds.”
Always been fond of Japanese vehicles, Sitthikorn Sornsuchittra, the company’s founder and owner, didn’t need much convincing to switch to UD trucks in early 2014. “They are a mix between European and Japanese technology – it’s the best of both worlds.”
In fact, Panthip has experienced fierce competition from rival companies when the availability and low price of alternative fuels resulted in the industry moving away from diesel fuel. “I sold off two of my trucks due to the increase in competition and really started to worry, I mean, I couldn’t keep up,” he says. “But then I discovered UD trucks, and while the UD trucks run on diesel, they consume much less fuel, as well as boast torque specifications that few other trucks have. I’m saving a lot more money now, and I’m back in the game.”
